สถิ
ติ
สวั
สดิ
การสั
งคม
สถิ
ติ
สวั
สดิ
การสั
งคมที่
เสนอในบทนี้
ได
ข
อมู
ลมาจาก
สํ
านั
กงานสถิ
ติ
แห
งชาติ
สํ
านั
กงานธนานุ
เคราะห
กระทรวงการ
พั
ฒนาสั
งคมและความมั่
นคงของมนุ
ษย
และ
สํ
านั
กงานประกั
นสั
งคม
กระทรวงแรงงาน
ภาครั
ฐและเอกชนในประเทศต
างๆ ได
ให
ความสํ
าคั
ญ
ในเรื่
องสวั
สดิ
การ
เพื่
อช
วยเหลื
อผู
ด
อยโอกาสทั้
งทางด
าน
เศรษฐกิ
จและสั
งคม
ซึ่
งจะเห็
นได
จากนโยบายของประเทศส
วนใหญ
จะมี
สวั
สดิ
การสั
งคมภายใต
ความคุ
มครองดู
แลของรั
ฐบาล
ดั
งนั้
น ข
อมู
ลสถิ
ติ
เกี่
ยวกั
บสวั
สดิ
การสั
งคมจะสะท
อนการมี
ส
วนร
วมของทุ
กฝ
ายเป
นอย
างดี
ข
อมู
ลสถิ
ติ
ที่
นํ
าเสนอในบทนี้
จะ
เกี่
ยวกั
บสวั
สดิ
การสั
งคมที่
ให
ความช
วยเหลื
อแก
ประชาชน เช
น
สวั
สดิ
การค
ารั
กษาพยาบาล
การรั
บจํ
านํ
าทรั
พย
สิ
น
สิ่
งของ
ในอั
ตราดอกเบี้
ยต่ํ
า
และการประกั
นตน
เป
นต
น
สถิ
ติ
การสํ
ารวจอนามั
ยและสวั
สดิ
การ
สํ
านั
กงานสถิ
ติ
แห
งชาติ
ได
จั
ดเก็
บข
อมู
ลด
านอนามั
ยและสวั
สดิ
การอย
าง
ต
อเนื่
องมาตั้
งแต
ป
พ.ศ. 2517 และการสํ
ารวจป
2554 เป
นการสํ
ารวจครั้
งล
าสุ
ด ซึ่
งมี
วั
ตถุ
ประสงค
เพื่
อรวบรวมข
อมู
ล
ของประชากรเกี่
ยวกั
บการได
รั
บสวั
สดิ
การค
ารั
กษาพยาบาล ภาวะการเจ็
บป
วย การเข
ารั
บบริ
การด
านสาธารณสุ
ข ค
าใช
จ
ายใน
การรั
บบริ
การด
านสาธารณสุ
ข และการเข
าถึ
งสวั
สดิ
การค
ารั
กษาพยาบาลของประชากร เป
นต
น
สถิ
ติ
ทรั
พย
จํ
านํ
า ไถ
ถอน และทรั
พย
หลุ
ดจํ
านํ
า
เป
นข
อมู
ลที่
ได
รั
บจากสํ
านั
กงานธนานุ
เคราะห
ที่
แสดงถึ
งทรั
พย
รั
บจํ
านํ
า ทรั
พย
ไถ
ถอน ทรั
พย
หลุ
ดจํ
านํ
า
ทรั
พย
หลุ
ดจํ
านํ
า หมายถึ
ง ทรั
พย
จํ
านํ
าที่
ผู
จํ
านํ
าขาดส
งดอกเบี้
ยติ
ดต
อกั
นเป
นเวลาเกิ
นกว
า
4
เดื
อน และไม
ได
ถอน
คื
นภายในกํ
าหนดระยะเวลา
30
วั
น นั
บตั้
งแต
วั
นที่
สถานธนานุ
เคราะห
ประกาศบั
ญชี
ทรั
พย
หลุ
ดจํ
านํ
าที่
ผู
จํ
านํ
าขาดส
งดอกเบี้
ย
ทรั
พย
จํ
านํ
านั้
นจะหลุ
ดเป
นสิ
ทธิ์
ของสถานธนานุ
เคราะห
ประกั
นสั
งคม
เป
นข
อมู
ลที่
ได
รั
บจากสํ
านั
กงานประกั
นสั
งคม ที่
แสดงถึ
ง จํ
านวนสถานประกอบการ จํ
านวน
ผู
ประกั
นตน (ตามมาตรา
33
มาตรา
39
และมาตรา
40)
และจํ
านวนการใช
บริ
การของผู
ประกั
นตนในแต
ละกรณี
ซึ่
ง
สํ
านั
กงานประกั
นสั
งคมได
มี
การจํ
าแนกเป
น
7
กรณี
ดั
งนี้
กรณี
เจ็
บป
วย กรณี
คลอดบุ
ตร กรณี
ทุ
พพลภาพ กรณี
ตาย
กรณี
สงเคราะห
บุ
ตร กรณี
ชราภาพ และกรณี
ว
างงาน
สถานประกอบการของผู
ประกั
นตน หมายถึ
ง สถานประกอบการธุ
รกิ
จอุ
ตสาหกรรมและบริ
การที่
มี
ลู
กจ
างตั้
งแต
1
คนขึ้
นไป ณ วั
นขึ้
นทะเบี
ยนประกั
นสั
งคม ยกเว
นกิ
จการเพาะปลู
ก ประมง ป
าไม
และเลี้
ยงสั
ตว
ซึ่
งมิ
ได
ใช
ลู
กจ
างตลอดป
และ
ไม
มี
งานลั
กษณะอื่
นรวมอยู
ด
วย จํ
านวนสถานประกอบการสํ
านั
กงานใหญ
และสํ
านั
กงานสาขาจะนั
บแยกแต
ละแห
ง (กรณี
ที่
แยกเป
นรายจั
งหวั
ดจะคํ
านึ
งถึ
งสถานี
ที่
ตั้
งของสถานประกอบการเป
นหลั
ก)
ผู
ประกั
นตนตามมาตรา
33
หมายถึ
ง ผู
ซึ่
งขึ้
นทะเบี
ยนประกั
นสั
งคม และหรื
อจ
ายเงิ
นสมทบอั
นก
อให
เกิ
ดสิ
ทธิ
ได
รั
บ
ประโยชน
ทดแทน ตามพระราชบั
ญญั
ติ
ประกั
นสั
งคม พ.ศ.
2533
และที่
แก
ไขเพิ่
มเติ
ม
ผู
ประกั
นตนตามมาตรา
39
หมายถึ
ง ผู
ซึ่
งเคยเป
นผู
ประกั
นตนตามมาตรา
33
และต
อมาความเป
นผู
ประกั
นตนได
สิ้
นสุ
ดลงตามมาตรา
38(2)
คื
อ สิ้
นสภาพการเป
นลู
กจ
างและได
แจ
งความประสงค
เป
นผู
ประกั
นตนต
อ
ผู
ประกั
นตนตามมาตรา 40 หมายถึ
ง ผู
ที่
มิ
ใช
ลู
กจ
างตามมาตรา 33 และประสงค
จะสมั
ครเข
าเป
นผู
ประกั
นตนตาม
พระราชบั
ญญั
ติ
ประกั
นสั
งคม พ.ศ. 2533
National Statistical Office
1...,302,303,304,306-307,308,310-311,312-313,314,315,316
318,319,320-321,322-323,324-325,326,327,328,329,330-331,...932